ด้วยการส่งเสริมและพัฒนาระบบดิจิทัลในช่องปากทั่วโลก ทำให้คลินิกทันตกรรมและ LAB ทันตกรรมเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางของดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงยังมีอุปกรณ์ดิจิทัลในช่องปากอีกมากมาย เช่น เครื่องสแกนภายในช่องปาก การสแกนห้องปฏิบัติการทันตกรรม การสแกนใบหน้า การพิมพ์ 3 มิติ เครื่องกัด และอื่นๆ ในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์ส่วนหน้าสำหรับการแปลง LAB ทันตกรรมให้เป็นดิจิทัล วิธีการเลือกผลิตภัณฑ์สแกนเนอร์ LAB ทันตกรรม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
1 ความเร็ว
ความเร็วในการสแกนถือเป็นประสิทธิภาพหลักประการหนึ่งในการตัดสินผลิตภัณฑ์มาโดยตลอด การสแกนอย่างรวดเร็วสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมาก ความเร็วในการสแกนทั่วไป Full-arch≤15s, รุ่นที่มี Dies≤16s, Impression≤38s, Articulator≤7s นั้นค่อนข้างเร็ว
2 ซอฟต์แวร์
สำหรับ LAB ทางทันตกรรม ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายมีความสำคัญมาก ไม่เพียงแต่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วในการเรียนรู้และการใช้งานเบื้องต้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดการปัญหาและการใช้งานในระยะหลังนั้นง่ายกว่าอีกด้วย
3 ฮาร์ดแวร์
คุณภาพที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดผลิตภัณฑ์ที่ดี นอกเหนือจากขอบเขตการมองเห็นที่กว้างและความสามารถในการสแกนมุมที่เล็กมากก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ซึ่งสามารถช่วยให้เราทำกรณีที่ซับซ้อนมากขึ้นในการทำงานประจำวันของเราได้
4. แอปพลิเคชั่นที่แพร่หลาย
สำหรับ LAB ทางทันตกรรม ยิ่งมีข้อบ่งชี้ที่อุปกรณ์สามารถสแกนได้มากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องให้ความสนใจมากขึ้นว่าการสแกนประเภทใดที่สามารถทำได้เมื่อเลือก นอกเหนือจาก Full-arch ทั่วไป รุ่นที่มีแม่พิมพ์ Impression Articulator (Kavo , Artex) Implant Abutment Implant Bridge ฟันปลอมทั้งปากก็มีความสำคัญเช่นกัน